“ค่ายเพาเวอร์กรีน 3” เปิดรับเยาวชนร่วม “ลดโลกร้อนด้วยสองมือเรา” ในช่วงปิดภาคเรียนเดือนตุลาคมนี้
คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสานต่อค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม “เพาเวอร์กรีน” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในช่วงปิดเทอมกลางเดือนตุลาคมนี้ โดยขณะนี้ “ค่ายเพาเวอร์กรีน รุ่น 3” กำลังเปิดรับสมัครนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
“ค่ายเพาเวอร์กรีน“ เป็นค่ายวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่เน้นให้เยาวชนรู้จักการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบผ่านกิจกรรมอันหลากหลายทั้งภาคทฤษฎีและการปฏิบัติจริง ตามคำนิยามของค่ายฯ ที่ว่า “วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม เรียนรู้สู่การปฏิบัติ” ทั้งนี้เพื่อปลูกจิตสำนักนึกและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้แก่เยาวชนผู้ซึ่งจะเป็นกำลังของชาติในอนาคต โดยในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 3 “ค่ายเพาเวอร์ รุ่น 3” ถูกจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13 – 19 ตุลาคม 2551 ณ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา จ. นครปฐม ภายใต้แนวคิด “ลดโลกร้อนด้วยสองมือเรา” ทั้งนี้เพื่อมุ่งเน้นให้เยาวชนได้เรียนรู้และตระหนักถึงความรุนแรงของภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ในปัจจุบันซึ่งกิจกรรมตลอดสัปดาห์ของ “ค่ายเพาเวอร์กรีน รุ่น 3” จะประกอบไปด้วย การบรรยายพิเศษเกี่ยวกับภาวะโลกโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านสิ่งแวดล้อม Work shop และปฏิบัติการทางด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมในห้องปฏิบัติการอัทันสมัยของมหิดล การเดินทางไปทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม การแสดงนิทรรศการโครงงานด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม และ อื่นๆ อีกมากมาย
“ปัจจุบัน เรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนจากสื่อต่าง ๆ แทบจะทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น น้ำท่วม และการเกิดพายุรุนแรงฉับพลัน ในพื้นที่ต่างๆของโลก ซึ่งปรากฏการณ์อันร้ายแรงทางธรรมชาติเหล่านี้ มีสาเหตุจากภาวะโลกร้อน โดยภาวะโลกร้อนส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำและกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์เราแทบทั้งสิ้น ดังนั้นหนทางหนึ่งที่จะช่วยลดโลกร้อนได้ก็คือมนุษย์เราจะต้องลดกิจกรรมหรือพฤติกรรมต่างๆที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้เยาวชนได้เรียนรู้สาเหตุและวิธีลดภาวะโลกร้อนด้วยวิทยาการทางด้านวิทยาศาตร์สิ่งแวดล้อม ก็น่าจะมีส่วนไม่มากก็น้อยในการช่วยลดภาวะโลกร้อนที่พวกเรากำลังเผชิญหน้ากันอยู่ในขณะนี้ ซึ่งตรงนี้คือที่มาของแนวคิด “ลดโลกร้อนด้วยสองมือเรา” ของ ”ค่ายเพาเวอร์กรีน 3” ในปีนี้” ผู้ช่วยศาสตราจารย์สิทธิพงษ์ ดิลกวณิช คณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการ “ค่ายเพาเวอร์กรีน” กล่าวถึงแนวคิดในการจัด “ค่ายเพาเวอร์กรีน 3”
ทางด้านนางอุดมลักษณ์ โอฬาร ผู้อำนวยการสายอาวุโสสายสื่อสารองค์กรและกิจการสัมพันธ์ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนโครงการ “ค่ายเพาเวอร์กรีน” อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา กล่าวเชิญชวนให้น้องๆ เยาวชนทั่วประเทศ เข้าร่วมกิจกรรม “ค่ายเพาเวอร์กรีน 3” เพื่อรวมพลังลดภาวะโลกร้อน “อย่าลืมนะคะน้องๆ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ด้วยการช่วย “ลดโลกร้อนด้วยสองมือเรา” กับ“ค่ายเพาเวอร์กรีน 3” ในช่วงปิดเทอมกลางเดือนตุลาคมนี้”
สำหรับเยาวชนที่จะเข้าร่วม “ค่ายเพาเวอร์กรีน รุ่นที่ 3” จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
• กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทยาศาสตร์ มีเกรดเฉลี่ยสะสมรวมในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตั้งแต่ 2.75 ขึ้นไป
• เขียนเรียงความในหัวข้อ “ลดโลกร้อนด้วยสองมือเรา” เพื่อนำเสนอเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนและแนวทางการแก้ปัญหาที่นักเรียนสามารถทำให้กับชุมชนของตนเอง ความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ A4 ทั้งนี้เรียงความที่ส่งเข้าประกวดจะต้องไม่เคยรับรางวัลจากการประกวดที่ใดมาก่อน
• หากเป็นผู้ที่เคยร่วมการแข่งขัน หรือทำโครงงานวิทยาศาสตร์ หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านสิ่งแวดล้อมให้แนบสำเนาเอกสารมาด้วย
เยาวชนที่สนใจสามารถส่งใบสมัครและเรียงความได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2551 ที่หน่วยกิจการนักศึกษา คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เลขที่ 999 ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170 วงเล็บมุมซอง (ใบสมัครค่ายเพาเวอร์กรีน) และสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็บไซต์ http://www.en.mahidol.ac.th/powergreen หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โทรศัพท์ 02-441-5000 ต่อ 1114 หรืออีเมล์ [email protected] ทั้งนี้เยาวชนที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 70 คน จะได้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายเพาเวอร์กรีน รุ่นที่ 3 เป็นเวลา 7 วัน ณ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา จังหวัดนครปฐม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น