By clicking “Accept All Cookies”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts.
Cookies Settings

คณะกรรมการบริษัท

1. การกำหนดโครงสร้าง คุณสมบัติ และแนวทางการสรรหากรรมการ

โครงสร้างการบริหารงานของบริษัทฯ ประกอบด้วยคณะกรรมการและผู้บริหาร ส่วนของคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการบริษัทประกอบด้วยประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการมีจำนวนที่เหมาะสมกับขนาดกิจการของบริษัทฯ และการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ เมื่อรวมแล้วมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 คน โดยมีกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง และมีกรรมการที่มีความเป็นอิสระอย่างแท้จริงจากฝ่ายบริหารและปราศจากความสัมพันธ์ทางธุรกิจ หรือความสัมพันธ์อื่นใดอันอาจมีอิทธิพลต่อการใช้ดุลยพินิจอย่างเป็นอิสระไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมด

คณะกรรมการบริษัทจะแต่งตั้งกรรมการจำนวนหนึ่งจากคณะกรรมการบริษัทเป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อทำหน้าที่พิเศษ โดยจะพิจารณาบทบาทและหน้าที่ของคณะกรรมการชุดย่อยเปรียบเทียบกับคุณสมบัติของกรรมการแต่ละคน ปัจจุบัน คณะกรรมการบริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยจำนวน 4 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทน คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและสรรหา และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ

ในการสรรหากรรมการ คณะกรรมการบริษัทมุ่งให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในการสรรหาบุคคลผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามาดํารงตําแหน่งกรรมการ โดยมอบหมายให้คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและสรรหา (Corporate Governance and Nomination Committee) ทำหน้าที่กำหนดและทบทวนคุณสมบัติของกรรมการ อันประกอบด้วย 1) คุณสมบัติทั่วไป 2) คุณสมบัติเฉพาะด้าน ที่เป็นประโยชน์และสอดคล้องกับกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และ 3) คุณสมบัติของกรรมการอิสระ ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมอื่นๆ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

  1. คุณสมบัติทั่วไป
    • ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
    • ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ใน ความผิดที่ได้กระทำ โดยประมาท
    • ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน
    • ไม่เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย
    • เป็นผู้ที่สามารถอุทิศเวลาให้กับบริษัท ได้อย่างเพียงพอ และเป็นกรรมการในบริษัทจด ทะเบียนไม่เกิน 5 บริษัท
    • มีคุณธรรมและความรับผิดชอบต่อผลงาน (integrity and accountability)
    • ตัดสินใจด้วยข้อมูลและเหตุผล
    • มีวุฒิภาวะ ความมั่นคง กล้าแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างและเป็นอิสระ
    • ยึดมั่นในการทำงานอย่างมีหลักการและมาตรฐานเยี่ยงมืออาชีพ
    • คุณลักษณะอื่นๆ ที่คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและสรรหาเห็นว่ามีความสำคัญ
  2. ความรู้ความชำนาญเฉพาะด้าน เพื่อความเหมาะสมโดยรวมของคณะกรรมการบริษัท มีความหลากหลายของทักษะ (Skill Mix) เพศ ประสบการณ์ ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจในธุรกิจของบริษัท การบัญชีและการเงิน การบริหารจัดการ การจัดทำกลยุทธ์ การตัดสินใจทางธุรกิจ การตลาด การกำกับดูแลกิจการ ตลอดจนด้านกฎหมาย
  3. กรรมการอิสระต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและความรู้ความชำนาญเฉพาะด้าน และต้องมีคุณสมบัติ “กรรมการอิสระ” ตามที่กำหนดใน “แนวปฏิบัติบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ว่าด้วยคณะกรรมการบริษัท พ.ศ. 2552 (ปรับปรุงครั้งที่ 7 พ.ศ. 2567)” โดยกรรมการอิสระของบริษัทฯ ต้องถือหุ้นไม่เกินร้อยละ 0.5 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของผู้ขออนุญาต บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของผู้ขออนุญาต ทั้งนี้ ให้นับรวมการถือหุ้นของผู้ที่เกี่ยวข้องของกรรมการอิสระรายนั้น ๆ ด้วย

คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและสรรหา มีหน้าที่พิจารณากลั่นกรองและดำเนินการสรรหาโดยคำนึงถึงความหลากหลายในโครงสร้างและองค์ประกอบของคณะกรรมการ (Board Diversity) ทั้งในด้านประสบการณ์ ความรู้ และความชำนาญเฉพาะด้านที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยไม่มีการจำกัดเพศ เชื้อชาติ สัญชาติ และศาสนา พร้อมทั้งได้มีการจัดทำตารางองค์ประกอบด้านทักษะของคณะกรรมการ (Board Skill Matrix) ขึ้น และนำมาเป็นหนึ่งในปัจจัยประกอบการพิจารณา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสรรหากรรมการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

2. ผลการปฏิบัติงานด้านการสรรหากรรมการ

ในปี 2567 คณะกรรมการบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วยกรรมการรวมทั้งสิ้น 13 คน ได้แก่ กรรมการอิสระ 5 คน (คิดเป็นร้อยละ 38) กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร 7 คน (คิดเป็นร้อยละ 53) ซึ่งมีกรรมการที่มีความรู้ในธุรกิจของบริษัทร่วมอยู่ด้วย และกรรมการที่เป็นผู้บริหาร 1 คน ทั้งนี้ คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและสรรหาได้พิจารณาทบทวนคุณสมบัติและความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี และเสนอให้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติเพื่อเสนอชื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกวาระหนึ่ง ซึ่งในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 นั้น มีกรรมการ 3 รายได้รับการเลือกตั้งจากผู้ถือหุ้น ได้แก่
1. นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ
2. นายวีระเจตน์ ว่องกุศลกิจ
3. นายองอาจ เอื้ออภิญญกุล

โดยคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและสรรหาได้พิจารณาทบทวนคุณสมบัติและความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งแล้ว เห็นว่ากรรมการที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งทั้ง 3 คน เป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมและสอดคล้องกับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ตลอดจนมีผลการปฏิบัติงานดี สมควรได้รับการพิจารณาเสนอชื่อต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 เพื่อเลือกตั้งเป็นกรรมการต่อไปอีกวาระหนึ่ง จึงได้เสนอต่อคณะกรรมการบริษัท ซึ่งได้ดำเนินการตามขั้นตอนการแต่งตั้งกรรมการครบถ้วนแล้ว


หน้าที่แห่งความไว้วางใจ

หน้าที่แห่งความไว้วางใจโดยทั่วไปหมายถึงการการปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ที่เกี่ยวข้องโดยสุจริต มีความน่าเชื่อถือ ปราศจากอคติและมีความรับผิดชอบ


กระบวนการและหลักเกณฑ์ในการสรรหากรรมการ

คณะกรรมการบริษัทมอบหมายให้คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและสรรหาเป็นผู้ทำหน้าที่สรรหากรรมการเพื่อทดแทนกรรมการที่ครบวาระหรือทดแทนตำแหน่งที่ว่างลงด้วยเหตุอื่น


คุณสมบัติกรรมการอิสระ

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ได้กำหนดนิยามของกรรมการบริษัทไว้ตามหลักเกณฑ์ เรื่อง “กรรมการอิสระ” ซึ่งกำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์


เลขานุการบริษัท

คณะกรรมการบริษัทได้แต่งตั้ง นาย วิรัช วุฒิธนาเศรษฐ์ ทำหน้าที่ เลขานุการบริษัท โดยให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559

© 2025 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) | Banpu Public Company Limited. All rights reserved.