บ้านปูฯ และมหิดลร่วมบ่มเพาะเยาวชนรุ่นใหม่ “เรียนรู้สู่การปฏิบัติจริง” ใน “ค่ายเพาเวอร์กรีน รุ่น 9” ปลูกจิตสำนึกสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกันจัดค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม หรือ “ค่ายเพาเวอร์กรีน” เป็นปีที่ 9 ระหว่างวันที่ 12 – 19 ตุลาคม 2557 ณ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมของเยาวชนให้เข้าใจปัญหาสิ่งแวดล้อมพร้อมการเตรียมรับมืออย่างถูกต้อง ในรูปแบบ “การเรียนรู้สู่การปฏิบัติจริง” ภายใต้ธีม “เยาวชนไทย เรียนรู้รับมือธรณีพิบัติภัย มหันตภัยใกล้ตัว” สอดคล้องกับเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในปัจจุบัน อาทิ สึนามิ แผ่นดินไหว น้ำท่วม แผ่นดินถล่ม และแผ่นดินยุบ โดยโครงการในปีนี้ เป็นการเข้าค่ายของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทยาศาสตร์ รวม 70 คน ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากผู้สมัคร 312 คนทั่วประเทศ
“ค่ายเพาเวอร์กรีน 9” มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้รอบด้านที่ไม่จำกัดอยู่เพียงทฤษฎีและในห้องเรียนเท่านั้น แต่ส่งเสริมให้เยาวชนสามารถวิเคราะห์ แก้ปัญหา และนำมาปฏิบัติจริง เพื่อพัฒนาศักยภาพรอบด้านและหล่อหลอมให้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีคุณภาพต่อสังคมในอนาคต
นางอุดมลักษณ์ โอฬาร ผู้อำนวยการสายอาวุโส-องค์กรสัมพันธ์ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บ้านปูฯ เชื่อว่า การเรียนรู้เป็นพลังสำคัญแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา ดังนั้น การได้ให้โอกาสเยาวชนซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต ได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองในหลากหลายรูปแบบ จะเป็นการขับเคลื่อนชุมชนและสังคมให้พัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน สอดคล้องกับปณิธานการดำเนินธุรกิจของเราที่ว่า “อุตสาหกรรมที่ดีจะต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม” ซึ่งบริษัทฯ ยึดมั่นมาตลอด 30 ปีในการดำเนินธุรกิจ ค่ายเพาเวอร์กรีนเป็นหนึ่งในโครงการด้านเยาวชนที่บ้านปูฯ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เป็นปีที่ 9 ที่บ้านปูฯ ได้เปิดโลกทัศน์ให้เยาวชนได้เรียนรู้วิธีรับมือกับธรณีพิบัติภัยอย่างเหมาะสม ดึงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของตนเองมาใช้ ฝึกการวิเคราะห์ แก้ปัญหา และทำงานเป็นทีม เพื่อนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปต่อยอดเพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเอง และถ่ายทอดไปสู่ผู้อื่นและสังคมต่อไป”
รศ. ดร. กัมปนาท ภักดีกุล คณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทยและภูมิภาคเอเชียที่มีความโดดเด่นในการเรียนการสอนทั้งด้านวิชาการและภาคปฏิบัติ ผมรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับบริษัทพลังงานชั้นนำแห่งเอเชียอย่างบ้านปูฯ ในโครงการค่ายเพาเวอร์กรีน เพื่อร่วมกันเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจแก่เยาวชน โดยมุ่งให้สามารถรับมือกับปัญหาด้าน “สิ่งแวดล้อม” ด้วยการวิเคราะห์ นำกระบวนการทาง “วิทยาศาสตร์” มาใช้ ผ่านการเรียนรู้ทั้งด้านทฤษฎีจากคณาจารย์ของคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ อุปกรณ์และเครื่องมือการเรียนการสอนอันทันสมัย ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา ไปจนถึงภาคปฏิบัติจริง โดยมีนักศึกษาพี่เลี้ยงคอยช่วยดูแลและให้คำแนะนำ แม้สาเหตุของธรณีพิบัติภัยส่วนใหญ่จะเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่คาดการณ์ไม่ได้ แต่หากมีการเรียนรู้วิธีรับมืออย่างเหมาะสม ก็จะสามารถลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้”
ตลอดระยะเวลา 8 วัน ของการอยู่ร่วมกันในค่ายเพาเวอร์กรีน เยาวชนทั้ง 70 คน จะได้เรียนรู้และทำความเข้าใจถึงลักษณะของภูมิประเทศและกลไกการเกิดธรณีพิบัติภัย สิ่งบอกเหตุ ไปจนถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถรับมือกับกรณีที่เกิดธรณีพิบัติภัยขึ้นจริงๆ ทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ และทัศนศึกษานอกสถานที่ ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี จากนั้นเยาวชนจะได้นำความรู้ที่ได้จากค่ายมาผสมผสานกับไอเดียของตนเองเพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาเป็นโครงงานกลุ่ม และนำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการโครงการและประชาชนทั่วไป ในงาน “นิทรรศการค่ายเพาเวอร์กรีน 9” ในวันที่ 18 ตุลาคม 2557 โดยมีการพิจารณามอบรางวัลให้กับโครงงานดีเด่น ประกอบด้วย
• รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ทุนการศึกษา 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
• รางวัลชนะเลิศอันดับ 2 ทุนการศึกษา 7,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
• รางวัลชนะเลิศอันดับ 3 ทุนการศึกษา 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
• รางวัลชมเชย ทุนการศึกษา 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
• รางวัลขวัญใจมหาชน หรือ Popular Vote ทุนการศึกษา 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร โดยรางวัลนี้เปิดโอกาสให้ประชนชนทั่วไปที่เข้าร่วมงานร่วมคัดเลือก
• รางวัลพิเศษ The Power Green 2014 Idol (ชาย 1 คน หญิง 1 คน) พร้อมเกียรติบัตร
“รางวัลจากการตัดสินเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวัดผลและกำลังใจ แต่สิ่งสำคัญที่เยาวชนทั้ง 70 คนได้เหมือนกันก็คือ รางวัลชีวิตจากการเรียนรู้ในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งบ้านปูฯ และมหาวิทยาลัยมหิดลหวังว่าจากนี้ไปเยาวชนจะสามารถนำความรู้และทักษะต่างๆ ที่ได้ฝึกฝนในค่ายไปปฏิบัติได้จริงทั้งด้านการศึกษาและการใช้ชีวิตในสังคม หล่อหลอมตนเองให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพต่อสังคมและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป” นางอุดมลักษณ์ โอฬาร กล่าวปิดท้าย