By clicking “Accept All Cookies”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts.
Cookies Settings
แผนพีดีพีใหม่ตอบโจทย์การเติบโตของบ้านปูฯ ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter

แผนพีดีพีใหม่ตอบโจทย์การเติบโตของบ้านปูฯ ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งเอเชีย-แปซิฟิก มองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (พีดีพี) ฉบับใหม่ 2561-2580 ที่ประกาศโดยกระทรวงพลังงานเมื่อเร็วๆ นี้ ว่าสอดคล้องกับกลยุทธ์ Greener & Smarter ของกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ ที่มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศไทยและประเทศที่มีศักยภาพในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายของกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ ในการขยายกำลังการผลิตให้ถึง 4,300 เมกะวัตต์เทียบเท่า โดยมีพลังงานหมุนเวียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ภายในปี 2568

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทบ้านปูฯ มองเห็นโอกาสการลงทุนจากแผนพีดีพีฉบับใหม่โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานหมุนเวียน ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ Greener & Smarter ของบริษัทฯ ที่เน้นการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และมีความชาญฉลาดในการดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้น รวมทั้งความได้เปรียบด้านความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ คือ มีการดำเนินธุรกิจใน 10 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ สามารถนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าจากการบริหารโครงการโรงไฟฟ้าทั้งจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป และพลังงานหมุนเวียนภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ที่กระจายตัวอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาค มาปรับใช้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในประเทศที่มีความเติบโตด้านความต้องการใช้ไฟฟ้า และมีนโนบายสนับสนุนจากรัฐบาล”


โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่นาริ ไอสึ จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในโครงการใหม่ล่าสุดที่ตอบโจทย์กลยุทธ์ Greener & Smarter

ปัจจุบัน ธุรกิจไฟฟ้าของบ้านปูฯ มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวม 2,689 เมกะวัตต์เทียบเท่า รวมทั้งหมด 28 โครงการ ครอบคลุมโครงการและโรงไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม กระจายตัวอยู่ในประเทศ ไทย ลาว จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม โดยในจำนวนนี้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วทั้งหมด 17 แห่ง กำลังการผลิต 2,144 เมกะวัตต์เทียบเท่า ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งล่าสุดที่ นาริ ไอสึ จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุน 15.35 เมกะวัตต์ ซึ่งเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความพร้อมในฐานะผู้ให้บริการด้านการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนแบบครบวงจร ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทลูก คือ บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด โดยเน้นการทำงานร่วมกับหุ้นส่วนทางธุรกิจที่เป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมดังกล่าวเพื่อหาโซลูชันที่ดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละราย รวมทั้งทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญ และภาคเอกชนอื่นๆ ในการสร้างองค์ความรู้ด้านการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อพัฒนาประเทศไทยไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ทซิตี้ อย่างเป็นรูปธรรม


การบริการด้านการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร โดย บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด

“ด้วยโครงสร้างกลุ่มธุรกิจของบ้านปูฯ เป็นการนำเสนอโซลูชันด้านพลังงานแบบครบวงจรที่ครอบคลุมธุรกิจต้นน้ำ (ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ) กลางน้ำ (การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานรวมไปถึงการค้าถ่านหิน) และปลายน้ำ (ไฟฟ้า พลังงานทดแทน และระบบการจัดการเทคโนโลยีพลังงาน) ผสานธุรกิจด้านพลังงานทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและรูปแบบใหม่หรือพลังงานทดแทน ทำให้เราสามารถผนึกกำลังระหว่างกันในกลุ่มธุรกิจหลักเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความสมดุลและขยายการเติบโตในกลุ่มธุรกิจพลังงานของบ้านปูฯ เพื่อส่งมอบพลังงานอย่างยั่งยืน ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามพันธสัญญาที่ว่า Our Way in Energy พลังบ้านปูฯ สู่พลังงานที่ยั่งยืน” นางสมฤดี กล่าวปิดท้าย

# # #

เกี่ยวกับบ้านปูฯ
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งเอเชีย-แปซิฟิก ดำเนินธุรกิจถ่านหิน ธุรกิจไฟฟ้า และพลังงานที่เกี่ยวเนื่องใน 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย ลาว มองโกเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม

© 2024 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) | Banpu Public Company Limited. All rights reserved.