บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการครึ่งปี 2557 ผลการดำเนินงานน่าพอใจ มีกำไรขั้นต้นจำนวนทั้งสิ้น 513 ล้านเหรียญสหรัฐ (16,706 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2556 ที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (14,920 ล้านบาท) ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ที่สม่ำเสมอของธุรกิจไฟฟ้า มาตราการลดต้นทุนการผลิต ผนวกกับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและการซื้อขายถ่านหินในตลาดล่วงหน้า (Coal Swap)

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 (1 มกราคม 2557 – 30 มิถุนายน 2557) บริษัทฯมีรายได้จากการขายรวม 1,549 ล้านเหรียญสหรัฐ (50,447 ล้านบาท) ลดลงร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 แม้ว่ารายได้จากการขายรวมลดลง แต่ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯมีผลประกอบการที่ดี โดยแบ่งออกเป็นรายได้จากการจำหน่ายถ่านหินจำนวน 1,442 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 93 ของรายได้รวม ซึ่งแบ่งเป็นถ่านหินจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซีย 981 ล้านเหรียญสหรัฐ และแหล่งผลิตในออสเตรเลีย 461 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำ เป็นจำนวน 92 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 6 ของรายได้รวม

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมานับว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากปริมาณการขายถ่านหินรวมที่ดีของ 3 ประเทศ ซึ่งได้แก่ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และจีน จำนวน 22.8 ล้านตัน โดยปริมาณการขายถ่านหินหลักมาจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซีย 13.8 ล้านตัน และแหล่งผลิตในออสเตรเลีย 7.1 ล้านตัน เมื่อผนวกกับการขยายตัวของรายได้จากธุรกิจไฟฟ้า ได้ส่งผลต่อผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ และในปีนี้บริษัทฯวางเป้าหมายยอดขายถ่านหินรวมจาก 3 ประเทศไว้ที่ประมาณ 48 ล้านตัน

ทั้งนี้นายชนินท์กล่าวเสริมว่า “ปริมาณการผลิตและขายจากแหล่งผลิตในออสเตรเลียในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานตามแผนงานที่วางไว้ เป็นผลจากการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ที่เหมืองแมนดาลอง รวมถึงการเปิดเหมืองแอรี่ที่หยุดการผลิตชั่วคราวให้กลับมาผลิตถ่านหินอีกครั้งในปีนี้ ผนวกกับมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้ธุรกิจถ่านหินในออสเตรเลียดำเนินการผลิตได้ดีขึ้น และมีส่วนผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดี”

ในภาพรวม ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยในครึ่งปีแรก ลดลงร้อยละ 9 อยู่ที่ 68.1 เหรียญสหรัฐต่อตัน จาก 75.1 เหรียญสหรัฐต่อตันในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง โดยราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของเหมืองในประเทศอินโดนีเซียเท่ากับ 69.6 เหรียญสหรัฐต่อตัน และในประเทศออสเตรเลียเท่ากับ 71.58 เหรียญออสเตรเลียต่อตัน

บริษัทฯได้ดำเนินมาตรการลดต้นทุนการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ ซึ่งได้ช่วยลดผลกระทบจากราคาขายถ่านหินที่ลดลงได้เป็นอย่างดี โดยเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2556 เหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ร้อยละ 14.6 และเหมืองถ่านหินในออสเตรเลียสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้ร้อยละ 3.4 ในขณะที่ธุรกิจไฟฟ้ารายงานผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง โดยโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีในประเทศไทย รับรู้ส่วนแบ่งรายได้จำนวน 50.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของโครงการโรงไฟฟ้าหงสา ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีความคืบหน้าไปแล้วประมาณร้อยละ 90 ซึ่งเป็นไปตามแผน โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในกลางปี 2558

# # #

เกี่ยวกับบ้านปู
บ้านปู จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทพลังงานแห่งเอเชีย ดำเนินธุรกิจถ่านหินและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องใน 6 ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย ลาวและมองโกเลีย สำหรับสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 มีสินทรัพย์รวม 7,256 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 235,510 ล้านบาท) และมีหนี้สินรวม 4,609 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 149,606 ล้านบาท) สำหรับอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 เท่ากับ 1.09 เท่า (เทียบกับ 1.10 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556) และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (EPS) เท่ากับ 0.008 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น (0.264 บาทต่อหุ้น) เปรียบเทียบกับ 0.005 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น (0.160 บาทต่อหุ้น) จากปีก่อนหน้า