By clicking “Accept All Cookies”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts.
Cookies Settings
บ้านปูฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/ 2552 กำไรเพิ่มจากราคาขายถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น

บ้านปูฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/ 2552 กำไรเพิ่มจากราคาขายถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2552 (1 มกราคม 2552 – 31 มีนาคม 2552) มีกำไรสุทธิจำนวนทั้งสิ้น 4,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 2,724 ล้านบาท หรือร้อยละ 131 เป็นผลมาจากราคาขายถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งกำไรจากธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2552 ที่ผ่านมาของบริษัทฯ สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีของธุรกิจหลักคือ ถ่านหินและไฟฟ้า โดยมีกำไรจากธุรกิจถ่านหินจำนวน 3,632 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,872 ล้านบาท หรือร้อยละ 378 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กำไรจากธุรกิจไฟฟ้าคิดเป็นจำนวน 1,166 ล้านบาท ลดลง 148 ล้านบาท หรือร้อยละ 11 จากงวดเดียวกันของปี 2551 ซึ่งมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 504 ล้านบาท

“กำไรสุทธิของธุรกิจถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 378 ในไตรมาส 1 ของปีนี้นั้น เป็นผลจากราคาขายถ่านหินเฉลี่ยปรับสูงขึ้นเป็น 84.23 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 71 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้มาจากการทำสัญญาราคาขายในช่วงที่ราคาถ่านหินในตลาดโลกเพิ่มขึ้นในปีก่อน ประกอบกับต้นทุนการผลิตถ่านหินของเหมืองในอินโดนีเซียปรับตัวลดลงจากการลดลงของราคาน้ำมันดีเซล นอกจากนี้ กำไรจากธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างเด่นชัดจากปีก่อนหน้า จากราคาขายที่สูงขึ้นในสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งนี้บริษัทฯ รับรู้ผลกำไรจากธุรกิจถ่านหินในประเทศจีน จำนวน 1,134 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามปริมาณการจำหน่ายถ่านหิน จำนวน 4.08 ล้านตันในไตรมาสนี้ ลดลงร้อยละ 10 จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และลดลงร้อยละ 17 จากไตรมาส 4 ปี 2551 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการหยุดปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพท่าเรือบอนตังซึ่งเป็นท่าเรือขนถ่ายถ่านหินของบริษัทฯ ในอินโดนีเซียตามกำหนดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และจากการผลิตที่ลดลงของเหมืองอินโดมินโคและเหมืองโจ-ร่ง รวมทั้งการปิดเหมืองในประเทศไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา”นายชนินท์กล่าว

สำหรับผลประกอบการของธุรกิจไฟฟ้านั้น นายชนินท์ กล่าวว่า ในไตรมาส 1/2552 ธุรกิจไฟฟ้ามีผลการดำเนินงานที่ราบรื่น โดยบริษัทฯ รับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี จำนวน 923 ล้านบาท (รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 93 ล้านบาท) มีการรับเงินปันผลจากบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่งจำนวน 240 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากบริษัท Banpu Power Investment (China) Ltd.หรือ BPIC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าในประเทศจีนจำนวน 204 ล้านบาท

นายชนินท์ กล่าวอีกว่า ในไตรมาส 1 ปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมเพิ่มขึ้นเป็น 13,624 ล้านบาท หรือร้อยละ 58 จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินจำนวน 12,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,808 ล้านบาท หรือร้อยละ 64 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 91 ของรายได้จากการขายรวม ส่วนรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในประเทศจีน มีจำนวน 1,269 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9 ของรายได้ทั้งหมด

“คาดว่าในปีนี้รายได้จากการขายรวมจะเติบโตมากกว่าร้อยละ 10 อันเป็นผลมาจากการเพิ่มปริมาณการจำหน่ายถ่านหินในอินโดนีเซียเป็น 20.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันคาดว่ารายได้จากถ่านหินในจีนจะดีกว่าปีที่แล้ว ในขณะที่รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าคงจะอยู่ในระดับที่ทรงตัวในปีนี้” นายชนินท์ กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 2 นั้น จะยังคงมีการปรับปรุงท่าเรือบอนตัง ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณการส่งมอบและการจำหน่ายถ่านหินในไตรมาส 2 นี้ แต่ราคาขายยังคงอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งคาดว่าผลประกอบการของไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้จะดีกว่าไตรมาส 3 และ 4 ตามระดับราคาขายที่ลดลง

“นอกจากนี้ ยังอาจมีความเสี่ยงเรื่องการส่งมอบถ่านหินตามเป้าหมายการผลิตและจำหน่ายของปีนี้ที่ 20.5 ล้านตันซึ่งปริมาณถ่านหินที่จะส่งมอบส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงครึ่งหลังของปี” นายชนินท์ กล่าวปิดท้าย

บ้านปูฯ เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานแห่งเอเชียที่มีความฉับไว ดำเนินธุรกิจหลักทางด้านถ่านหินและ ไฟฟ้าโดยมีฐานธุรกิจอยู่ใน 3 ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย และจีน โดยฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 เมื่อเปรียบเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 88,841 ล้านบาท ลดลง 521 ล้านบาท มีหนี้สินรวมจำนวนทั้งสิ้น 38,684 ล้านบาท ลดลง 5,144 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12 สำหรับอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 เท่ากับ 0.29 เท่า เทียบกับ 0.36 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ส่วนกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานของบริษัทฯ เท่ากับ 17.65 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 131 เมื่อเทียบกับ 7.63 บาทต่อหุ้นของงวดเดียวกันในปีที่ผ่านมา

© 2024 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) | Banpu Public Company Limited. All rights reserved.