บ้านปูฯ เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 2559 ย้ำเดินหน้าตามแผนการเติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุล
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรกปี 2559 รายได้จากการขายรวมคิดเป็น 1,022 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 36,253 ล้านบาท) คงการสร้างกระแสเงินสด เดินหน้าผลิตและจัดหาพลังงานอย่างครบวงจรจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ มุ่งสานต่อแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมเพิ่มศักยภาพการลงทุนและพัฒนาในพลังงานหมุนเวียน โดยคาดว่าภายในปี 2568 จะสามารถขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าได้ 4,300 เมกะวัตต์เทียบเท่า ซึ่งรวมถึงส่วนที่เป็นพลังงานหมุนเวียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บ้านปูฯ ยังคงสานต่อแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตที่สมดุลและยั่งยืนตามทิศทางพลังงานของโลก และยุทธศาสตร์ด้านพลังงานในแต่ละประเทศ โดยสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจพลังงานหลักของบริษัทฯ อย่างถ่านหินด้วยมาตรการควบคุมต้นทุน ควบคู่ไปกับพัฒนาประสิทธิภาพด้านการผลิตและโลจิสติกส์ของเหมืองในประเทศออสเตรเลียและอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่อง ให้มีความพร้อมต่อสภาวะตลาด และนำมาซึ่งผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวเมื่อราคาถ่านหินปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนั้นธุรกิจไฟฟ้าก็มีการเติบโตตามแผนของบริษัทฯ ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการลงทุน ซึ่งปัจจุบันเรามีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1.86 กิกะวัตต์เทียบเท่า และเมื่อนับรวมโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เราจะขยายให้เป็น 2.4 กิกะวัตต์เทียบเท่าในปี 2561 โดยตั้งเป้าให้เพิ่มถึง 4.3 กิกะวัตต์เทียบเท่า ซึ่งแบ่งเป็นพลังงานหมุนเวียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ภายในปี 2568”
ในครึ่งแรกของปี 2559 โครงการโรงไฟฟ้าหงสายูนิตที่ 3 ในประเทศลาว ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายเข้าสู่ประเทศไทยตามที่กำหนดในสัญญาซื้อขาย (PPA) เป็นที่เรียบร้อย โดยบริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไร 12.87 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาส 2/2559 ด้านโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวงในประเทศจีน กำลังผลิตติดตั้งรวม 1,320 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายปี 2560 ส่วนความคืบหน้าในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ล่าสุด บริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้มาซึ่งหุ้นทั้งหมดในโครงการ ฮุ่ยเหนิงแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อนเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นในโครงการจินซาน โครงการเฮ่าหยวน และโครงการฮุ่ยเอิน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2559
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4 โครงการดังกล่าวในมณฑลซานตง ประเทศจีน มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 90 เมกะวัตต์ โดยเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 70 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการ จินซาน โครงการฮุ่ยเหนิง และโครงการเฮ่าหยวน ส่วนโครงการฮุ่ยเอิน จำนวน 20 เมกะวัตต์จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3/2559 ขณะที่โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นอีก 8 โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการลงทุน 74.4 เมกะวัตต์ (ไฟฟ้ากระแสสลับ) ปัจจุบันมี 2 โครงการที่ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว คือ โครงการโอลิมเปีย และโครงการฮิโนะ คิดเป็น 6.6 เมกะวัตต์ (ไฟฟ้ากระแสสลับ) ส่วนโครงการที่เหลือจะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2560-2561
ภายในปี 2568 บริษัทฯ มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานลม และพลังงานชีวมวล ทั้งในประเทศที่บริษัทฯ มีประสบการณ์ในการเข้าไปลงทุนอยู่แล้ว และประเทศอื่นๆ ที่ความต้องการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมีอัตราเติบโตสูง อาทิ ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น โดยมีกลยุทธ์การลงทุนพลังงานหมุนเวียนรูปแบบต่างๆ ให้กระจายครอบคลุมอยู่ในหลากหลายประเทศ เพื่อสร้างสมดุลในโอกาสและข้อได้เปรียบทางธุรกิจ พร้อมทั้งลดความเสี่ยง ทั้งนี้ บ้านปูฯ พร้อมขับเคลื่อนกลยุทธ์การลงทุนธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียนอย่างเข้มแข็ง และต่อยอดการเติบโตของสินทรัพย์ โดยมีแผนที่จะออกและเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) ของบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปูฯ ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในไตรมาส 4/2559
“บ้านปูฯ กำลังเดินหน้าเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนตามแผนการดำเนินธุรกิจ 5 ปี และยังคงเน้นการบ่มเพาะปรัชญาการทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจของบริษัทฯ พร้อมด้วยนโยบายการบริหารงานเชิงรุกที่มุ่งสร้างกระแสเงินสดให้เป็นบวกเพื่อคงสถานะทางการเงินที่มีสภาพคล่องสูง บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า แผนการดำเนินธุรกิจที่เน้นการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตลอดจนการลงทุนด้านพลังงานหลักควบคู่ไปกับพลังงานหมุนเวียนทั่วภูมิภาคในประเทศที่มีปัจจัยเกื้อหนุน จะช่วยส่งเสริมให้บริษัทฯ ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานอย่างมั่นคงต่อไป” นางสมฤดี กล่าวปิดท้าย
สรุปผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2559 ของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)
บริษัทฯ รายงานปริมาณการขายถ่านหินรวมทั้งสิ้น 19.57 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้ประกอบด้วยปริมาณการขายของเหมืองในประเทศออสเตรเลีย 6.45 ล้านตัน และเหมืองในประเทศอินโดนีเซีย 13.12 ล้านตัน มีรายได้จากการขายถ่านหิน จำนวน 926 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 91 ของรายได้ทั้งหมด ด้านธุรกิจไฟฟ้า กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) คิดเป็น 83 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในไตรมาส 2/2559 คิดเป็น 40 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 57 จากปีก่อนหน้า และในไตรมาสนี้มีการรับรู้ผลการดำเนินธุรกิจ Shale Gas ในสหรัฐอเมริกา ด้วย EBITDA จำนวน 2 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับการใช้สิทธิครั้งแรกในการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ตามใบสำคัญแสดงสิทธิ BANPU W-3 จะมีขึ้นในวันที่ 5 กันยายน 2559 นี้ ผู้ถือหุ้นสามารถศึกษาแนวทางการใช้สิทธิดังกล่าวได้ทางเว็บไซต์ http://www.banpu.co.th/investor_news/ หรือติดต่อฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ โทร 02.694.6600
*หมายเหตุ: คำนวณโดยอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนที่ USD 1: THB 35.4745