บ้านปูฯ เผย 5 สุดยอดกิจการเพื่อสังคมไฟแรง Banpu Champions for Change 8 พร้อมต่อยอดงานแฟร์ ‘Impact Day: พื้นที่แห่งโอกาสของคนรุ่นใหม่’ เป็นปีที่ 2
5 สุดยอดกิจการเพื่อสังคมชนะเลิศจากโครงการพลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคมปีที่ 8
(ซ้ายไปขวา)
นายเกรียงไกร บุญเหลือ กิจการเพื่อสังคม Vanta (วันทา) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าจากผ้าย้อมสีธรรมชาติ
นางสาวปิชญา ตะนอย กิจการเพื่อสังคม ก้อนฝ้าย (Gonfai) ธุรกิจพัฒนาและจัดจำหน่ายสินค้าที่ผลิตโดยกลุ่มชาวเขา
นายสุนิตย์ เชรษฐา ผู้อำนวยการสถาบัน ChangeFusion
นางอุดมลักษณ์ โอฬาร ผู้อำนวยการสายอาวุโส-องค์กรสัมพันธ์ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)
นางสาวยุจเรศ สมนา กิจการเพื่อสังคม Craft de Quarr (คราฟท์เดอคัวร์) ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกจากภูมิปัญญาและงานศิลปะพื้นเมือง
นายชนินทร์ ศรีสุมะ กิจการเพื่อสังคม Refill Station (รีฟิล สเตชั่น) ธุรกิจค้าปลีกที่มุ่งแก้ปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน และ
นายธวัชชัย อิงบุญมีสกุล กิจการเพื่อสังคม WEALTHI (เวลธ์ติ) ธุรกิจการเงินส่วนบุคคล ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้ารายย่อยที่มีรายได้น้อย
กรุงเทพฯ 26 พฤศจิกายน 2561 – “โครงการพลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม ปีที่ 8” หรือ Banpu Champions for Change (BC4C) 8 โดย บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งเอเชีย-แปซิฟิก ที่มุ่งมั่นพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน และ สถาบัน ChangeFusion องค์กรไม่แสวงผลกำไร ใช้ระยะเวลากว่า 5 เดือน สำหรับการเฟ้นหากิจการเพื่อสังคมดีเด่น ล่าสุด ได้ประกาศ 5 กิจการเพื่อสังคมผู้ชนะในปีนี้ พร้อมมอบทุนสนับสนุนรวมกว่า 1.25 ล้านบาท เพื่อนำไปต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม และเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงให้สังคมอย่างยั่งยืน พร้อมสานต่องานแฟร์ด้านกิจการเพื่อสังคมของไทยอย่าง Impact Day: พื้นที่แห่งโอกาสของคนรุ่นใหม่ เป็นปีที่ 2 ให้ประชาชนทั่วไปและนักเรียนนักศึกษาได้รู้จัก ทำความเข้าใจ และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมกิจการเพื่อสังคมมากขึ้น รวมทั้งจัดกิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวบรวมผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อผนึกกำลังพัฒนาเครือข่ายกิจการเพื่อสังคมไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป
นางอุดมลักษณ์ โอฬาร ผู้อำนวยการสายอาวุโส-องค์กรสัมพันธ์ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปีนี้ นับเป็นอีกหนึ่งปีที่ ‘โครงการพลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม’ หรือ Banpu Champions for Change มีการเปลี่ยนแปลงและขยายผลอย่างเด่นชัด หนึ่งในนั้นคือการเปิดตัว SE.School (Social Enterprise School) แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมแห่งแรกในประเทศไทยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่เปิดกว้างให้ทั้งประชาชนทั่วไป และผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับกิจการเพื่อสังคมให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นด่านแรกที่ช่วยติดอาวุธความรู้พื้นฐานที่สำคัญเกี่ยวกับกิจการเพื่อสังคม ที่ผู้เข้าร่วมโครงการในปีนี้ก็ได้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้มาก และยังช่วยให้พวกเขาสามารถคิดตกผลึกไอเดีย และถ่ายทอดแนวคิดกิจการเพื่อสังคมของตัวเองออกมาได้อย่างมีระบบและชัดเจน หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้เข้าร่วมเวิร์คชอปต่าง ๆ ที่เน้นการพัฒนาและต่อยอดแผนการดำเนินธุรกิจ และการสร้างผลลัพธ์ทางสังคมได้จริงอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดนี้นับว่าเป็นกระบวนการเตรียมความพร้อมที่เข้มข้นขึ้นในปีนี้ ก่อนนำเสนอแผนการดำเนินงานและเป้าหมายธุรกิจต่อคณะกรรมการ จนได้มาซึ่ง 5 กิจการเพื่อสังคมดีเด่นที่จะมาสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป”
สำหรับ 5 ทีมผู้ชนะ นอกจากจะได้รับทุนสนับสนุนต่อเนื่องรวมกว่า 1.25 ล้านบาทแล้ว ยังได้เข้าร่วมกิจกรรม Sprint Workshop ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยให้ทั้ง 5 ทีม สามารถค้นพบศักยภาพของตนเองและฝ่าฟันความท้าทายหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินโครงการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ซึ่งในเวิร์คชอปนี้ มีรุ่นพี่ BC4C จากหลากหลายรุ่น ได้แก่ A-chieve Ma:D TP Packaging Solution และ Hand Up Network มาร่วมแชร์ประสบการณ์ ทั้งความสำเร็จ การฝ่าฟันอุปสรรค และการแก้ไขปัญหาเพื่อมุ่งสู่การเป็นกิจการเพื่อสังคมที่ยั่งยืนอีกด้วย
สำหรับ 5 ทีมผู้ชนะโครงการพลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคมปีที่ 8 หรือ Banpu Champions for Change 8 ได้แก่
- ทีม Vanta (วันทา) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าจากผ้าย้อมสีธรรมชาติ เพื่อเพิ่มรายได้ให้คนในชุมชน ไปพร้อม ๆ กับการเพิ่มพื้นที่การปลูกต้นไม้ใหญ่ในชุมชน
- ทีม Craft de Quarr (คราฟท์เดอคัวร์) ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกจากภูมิปัญญาและงานศิลปะพื้นเมือง มุ่งแก้ไขปัญหาการขาดผู้สืบทอดงานหัตถกรรมและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
- ทีม ก้อนฝ้าย (Gonfai) ธุรกิจพัฒนาและจัดจำหน่ายสินค้าที่ผลิตโดยกลุ่มชาวเขา มุ่งพัฒนาตลาดสำหรับสินค้าหัตถกรรมและสร้างรายได้และอาชีพที่มั่นคงให้กับกลุ่มชาวเขา
- ทีม Refill Station (รีฟิล สเตชั่น) ธุรกิจค้าปลีก ที่มุ่งแก้ปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าโดยไม่สร้างขยะด้วยการซื้อสินค้าแบบ refill นำบรรจุภัณฑ์มาเติมสินค้าเอง
- ทีม WEALTHI (เวลธ์ติ) ธุรกิจการเงินส่วนบุคคล ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้ารายย่อยที่มีรายได้น้อย และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินได้
“ในปีนี้ โครงการฯ ยังสานต่อความสำเร็จของงานแฟร์ด้านกิจการเพื่อสังคมของไทยอย่าง Impact Day: พื้นที่แห่งโอกาสของคนรุ่นใหม่ เป็นปีที่ 2 เพื่อสนับสนุนให้กิจการเพื่อสังคมในโครงการฯ และกิจการเพื่อสังคมอื่น ๆ ทั่วประเทศ ได้มีพื้นที่ในการแนะนำกิจการและจำหน่ายสินค้าและบริการ ขณะเดียวกัน ประชาชนทั่วไป ผู้ที่สนใจในกิจการเพื่อสังคม และนักเรียนนักศึกษาก็มีโอกาสศึกษาหาความรู้ด้านกิจการเพื่อสังคมจากผู้มีประสบการณ์ตรง ซึ่งถือเป็นโอกาสในการเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ และอาจเป็นโอกาสในการเริ่มต้น ต่อยอด หรือพัฒนากิจการเพื่อสังคมของตนต่อไป”
“กิจกรรมอื่น ๆ ที่จัดขึ้นภายในงานยังมุ่งเชื่อมโยงคนร่วมอุดมการณ์ให้ได้พบปะ พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมไปถึงสร้างความสัมพันธ์เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็เพื่อขยายการตระหนักรู้ด้านกิจการเพื่อสังคมในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเครือข่ายกิจการเพื่อสังคมไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สอดคล้องกับความเชื่อของบ้านปูฯ ที่ว่า พลังความรู้ คือ พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา” นางอุดมลักษณ์ กล่าวสรุป
โดยงาน Impact Day: พื้นที่แห่งโอกาสของคนรุ่นใหม่ จัดขึ้นในวันที่ 25 – 26 พฤศจิกายน 2561 มีกิจกรรมให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาร่วมสนุกสนานพร้อมได้สาระมากมาย ได้แก่ SE.School Talk & Share – “ล้มให้เป็น ลุกให้ได้” เสวนาถอดบทเรียนจากรุ่นพี่กิจการเพื่อสังคมจากโครงการฯ พร้อมเคล็ดลับการก้าวข้ามอุปสรรค SE.School Live Consultation – กิจกรรมที่เปิดให้ผู้ที่มีไอเดียกิจการเพื่อสังคม พูดคุยกับรุ่นพี่ศิษย์เก่าโครงการฯ ด้านการสร้างกิจการเพื่อสังคมรูปแบบต่าง ๆ อย่างเป็นกันเอง Workshop by Social Enterprises – เวิร์คชอปงานคราฟท์ดี ๆ จากกิจการเพื่อสังคมในโครงการฯ Fashion for Change – แฟชั่นโชว์เพื่อการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกของวงการแฟชั่นในธีม “Ethical crafts : Crafts for All, All are Craft” ที่ผสานทักษะการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ กับวิถีชีวิตและฝีมือของชุมชนต่าง ๆ จากทั่วประเทศได้อย่างลงตัว และ ปิดท้ายด้วย BC4C Pitching Opportunity ที่เปลี่ยนเวทีให้เป็นพื้นที่แห่งโอกาสในการต่อยอดธุรกิจด้วยการนำเสนอแผนธุรกิจกับองค์กรและผู้สนับสนุนกิจการเพื่อสังคมต่าง ๆ
นายสุนิตย์ เชรษฐา ผู้อำนวยการสถาบัน ChangeFusion องค์กรไม่แสวงผลกำไรภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “จากจำนวนผู้เข้าใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ SE.School มีผู้ที่อยู่นอกพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมากถึงร้อยละ 44 นับว่าเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ ทำให้สถาบันฯ และ บ้านปูฯ ได้ตระหนักว่า กิจการเพื่อสังคม ยังคงเป็นอีกหนึ่งประเภทกิจการที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ และไม่ได้กระจุกตัวอยู่เฉพาะในกลุ่มคนเมืองเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เอง สถาบันจึงมั่นใจว่า การพัฒนา SE. School แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมอย่างไม่หยุดยั้ง การสานต่อตลาดนัดแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม Impact Day: พื้นที่แห่งโอกาสของคนรุ่นใหม่ เป็นปีที่ 2 ควบคู่ไปกับการดำเนินงาน ‘โครงการพลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม’ หรือ Banpu Champions for Change อย่างต่อเนื่อง จะเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนที่สำคัญที่จะช่วยให้พวกเขากล้าก้าวออกมาเริ่มต้นกิจการเพื่อสังคมของตัวเอง และเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงดี ๆ ให้แก่สังคมอย่างยั่งยืนต่อไป”
สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี และรายละเอียดการเปิดรับสมัครโครงการ
พลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคมในปีที่ 9 ที่จะเริ่มในเดือน กุมภาพันธ์ 2562 สามารถติดตามได้ที่เฟซบุ๊ก www.facebook.com/banpuchampions
###
เกี่ยวกับ บมจ. บ้านปูฯ
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งเอเชีย-แปซิฟิก ดำเนินธุรกิจถ่านหิน ธุรกิจไฟฟ้า และพลังงานที่เกี่ยวเนื่องอย่างครบวงจรใน 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย ลาว มองโกเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม
“พลังความรู้ คือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา”
บ้านปูฯ เชื่อว่า “การเรียนรู้” เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนา “คน” ซึ่งจะขับเคลื่อนชุมชนและสังคมให้พัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว โครงการซีเอสอาร์ของบ้านปูฯ ในทุกประเทศ จึงมุ่งเน้นสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องให้กับเยาวชนและชุมชนในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง การดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน การฝึกฝนเพื่อพัฒนาศักยภาพและทักษะชีวิต หรือการค้นคว้า เรียนรู้ และค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเองหรือร่วมกับคนอื่นๆ