บ้านปูฯ ร่วมพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ห่างไกล สร้างโรงเรียนต้นแบบใน 3 จังหวัดภาคเหนืออย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปี
เด็กและเยาวชนในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาทั้งด้านการศึกษาและศักยภาพให้พร้อมรับกับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในการดำเนินชีวิตประจำวันและชีวิตการทำงานในอนาคต อย่างไรก็ตาม เด็กนักเรียนจำนวนมากในต่างจังหวัดที่ห่างไกลยังไม่ได้รับการศึกษาที่ทัดเทียมกับโรงเรียนในเมือง ซึ่งมีความพร้อมสูงกว่าทั้งในด้านบุคลากรครูและสื่อการเรียนการสอน ดังนั้น การมอบโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมกันจึงเป็นเรื่องสำคัญ และในการพัฒนาการศึกษาไทยต้องอาศัยการผลักดันจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ด้วยเหตุนี้ บริษัท บ้านปู (จำกัด) มหาชน หนึ่งในผู้นำด้านพลังงานแห่งเอเชีย จึงได้ริเริ่ม “โครงการสนับสนุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” นับตั้งแต่ปี 2547 โดยให้การสนับสนุนโรงเรียนมัธยมศึกษาและโรงเรียนประถมศึกษาขยายโอกาสจำนวน 6 แห่งในพื้นที่ห่างไกลของจังหวัดลำปาง ลำพูน และพะเยา มาเป็นเวลา 10 ปี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการศึกษาของชาติ เพราะบริษัทฯ เชื่อว่า การศึกษาคือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา
จากค่านิยมร่วมองค์กร “บ้านปู สปิริต” สู่การพัฒนาด้านการศึกษา
โครงการสนับสนุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Banpu Education for Sustainability (BES) นี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมซีเอสอาร์หลังการผลิต (After-Process CSR) ของบ้านปูฯ ที่มุ่งส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้แก่เด็กและเยาวชน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์และการพัฒนาที่ยั่งยืนของ “คน” และ “สังคม” ในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับปณิธานในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ว่า “อุตสาหกรรมที่ดีจะต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม” อีกทั้งยังสอดคล้องกับค่านิยมร่วมองค์กรที่เรียกว่า “บ้านปู สปิริต” ซึ่งประกอบด้วย “นวัตกรรม” “การยึดมั่นในความถูกต้อง” “ห่วงใยและเอาใจใส่” และ “พลังร่วม” โดยโครงการ BES มุ่งเน้นพัฒนาโรงเรียนให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชนอย่างยั่งยืนเพื่อสร้าง “พลังร่วม” ในชุมชน ส่งเสริมให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อีกทั้งพัฒนาศักยภาพครูด้วยเครื่องมือและวิธีการใหม่ๆ รวมถึงการส่งเสริมให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองทั้งในและนอกห้องเรียน ซึ่งเท่ากับได้นำเอา “นวัตกรรม” มาใช้พัฒนาการศึกษา โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีของการดำเนินโครงการ BES บ้านปูฯ ได้ใช้งบประมาณในการพัฒนาโรงเรียนจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนสบปราบพิทยาคม โรงเรียนแม่ทะพัฒนศึกษา และโรงเรียนแม่ทะวิทยา จังหวัดลำปาง โรงเรียนเวียงเจดีย์วิทยา จังหวัดลำพูน โรงเรียนเชียงม่วนวิทยาคม และโรงเรียนบ้านสระ จังหวัดพะเยา รวมแล้วกว่า 28 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาอุปกรณ์การเรียนการสอน จัดจ้างครูภาษาอังกฤษเจ้าของภาษาที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ และจัดกิจกรรมนอกหลักสูตรเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้แก่นักเรียน รวมถึงครูและผู้ปกครองอย่างต่อเนื่อง
นางอุดมลักษณ์ โอฬาร ผู้อำนวยการสายอาวุโส-องค์กรสัมพันธ์ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯเชื่อมั่นว่าการเติบโตอย่างยั่งยืนต้องมีการพัฒนาธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยม “บ้านปู สปิริต” ในเรื่องความ “ห่วงใยและเอาใจใส่” ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยเฉพาะชุมชนที่อาศัยรอบๆ พื้นที่การดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุนโครงการ BES นี้มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว และเรารู้สึกภูมิใจเมื่อได้เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนทั้ง 6 แห่งที่เราเข้าไปให้การสนับสนุน “ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้มาจากงบประมาณที่บ้านปูฯ สนับสนุนเท่านั้น แต่ยังเกิดจากความทุ่มเทของครูและผู้บริหารโรงเรียน การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น คือ ความตั้งใจและใฝ่รู้ของตัวนักเรียนเอง ซึ่งสิ่งนี้สอดคล้องกับนโยบายการสนับสนุนของบริษัทฯ ที่เน้นให้เกิดความร่วมมือหรือ “พลังร่วม” ของทุกฝ่าย เพื่อผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน”
“การพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน” ผลลัพธ์จาก “พลังร่วม” ของทุกภาคส่วน
จากความร่วมมือและทุ่มเทของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้ นักเรียนของ 6 โรงเรียนภายใต้โครงการ BES มีทักษะรอบด้าน ทั้งความรู้ในด้านวิชาการ ทักษะการดำเนินชีวิต คุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อม สามารถใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับชาวต่างชาติได้ดี ในขณะที่โรงเรียนสามารถเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้อย่างยั่งยืนของชุมชนในภาคเหนือ เป็นต้นแบบการเรียนการสอนและการดำเนินกิจกรรมนอกห้องเรียนให้กับโรงเรียนใกล้เคียง ยกตัวอย่างเช่น โรงเรียนเวียงเจดีย์วิทยา อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ซึ่งได้รับเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้เป็น 1 ใน 2 ศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ หรือ Education Resources Information Center (ERIC) แห่งจังหวัดลำพูน เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้กับครูและนักเรียนในอำเภอลี้ อำเภอบ้านโฮ่ง และใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนแม่ทะพัฒนศึกษา อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ที่ดำเนินโครงการเครือข่ายเยาวชนรักษ์ลุ่มน้ำจาง ซึ่งส่งเสริมให้เยาวชนใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมในการอนุรักษ์แม่น้ำสายสำคัญของชุมชน ที่สำคัญโรงเรียนทั้ง 6 แห่งภายใต้การสนับสนุนของบ้านปูฯ ยังผ่านการประเมินเป็นโรงเรียนต้นแบบในโครงการโรงเรียนในฝันของ สพฐ. อีกด้วย
นายแสวง บุญมากาศ ผู้อำนวยการโรงเรียนเวียงเจดีย์วิทยา หนึ่งในโรงเรียนที่ได้รับการสนับสนุนจากบ้านปูฯ อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2548 กล่าวว่า เป้าหมายของโรงเรียนคือการมุ่งพัฒนานักเรียนให้เป็นคนที่มีคุณภาพรอบด้าน ไม่เพียงแค่ด้านวิชาการ แต่ยังรวมถึงทักษะในการดำเนินชีวิต และการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม โรงเรียนเน้นพัฒนาทักษะความรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนมากเป็นพิเศษ เนื่องจากจังหวัดลำพูนเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคเหนือที่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง “ด้วยการสนับสนุนจากบ้านปูฯ ตลอด 10 ปี ทำให้โรงเรียนสามารถจ้างครูภาษาอังกฤษเจ้าของภาษาเพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกสื่อสารภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาโดยตรง ส่งผลให้มีทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียนได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งมีความมั่นใจในการสื่อสารยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย”
นางสาวเมลิซซ่า เชด ครูสอนภาษาอังกฤษชาวอังกฤษ โรงเรียนเวียงเจดีย์ กล่าวว่า “จากประสบการณ์การสอนพบว่าเด็กไทยมีศักยภาพสูงเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ทั้งระดับสติปัญญาหรือไอคิว และความฉลาดทางอารมณ์หรืออีคิว นอกจากนี้ยังมีความกระตือรือร้นและใฝ่เรียน สิ่งที่ต้องปรับปรุงมีเพียงความกล้าสื่อสารและแสดงความคิดเห็น ซึ่งหากมีการส่งเสริมอย่างถูกต้องก็จะช่วยให้เด็กไทยสามารถพัฒนาความรู้และทักษะ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันต่อไป”
นางสาวปาริฉัตร หล้าหนัก หรือ “กุ๊กกิ๊ก” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเวียงเจดีย์วิทยา กล่าวว่า วางแผนไว้ว่า หลังจบ ม. 6 ในปีหน้าจะสอบเข้าเรียนต่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะหลังจากได้เรียนในโปรแกรม Mini English ของโรงเรียนมาระยะหนึ่งก็รู้สึกชอบวิชาภาษาอังกฤษมาก “ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเอาใจใส่ของครูเจ้าของภาษา และการเรียนการสอนที่ให้นักเรียนมีส่วนร่วมทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน จากที่เมื่อก่อนเป็นคนขี้อาย ปัจจุบันมีความมั่นใจในการสื่อสารกับชาวต่างชาติ และที่ผ่านมายังสามารถคว้ารางวัลจากการแข่งขันต่างๆ ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับตนเองและเพื่อนๆ อีกด้วย”
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโรงเรียนมัธยมศึกษาต้นแบบในภาคเหนือ ที่ได้รับการสนับสนุนจากบ้านปูฯ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถพัฒนานักเรียน ครู และโรงเรียนได้อย่างยั่งยืน พร้อมเป็นต้นแบบให้กับโรงเรียนโดยรอบในการพัฒนาการศึกษาของชาติ ที่สำคัญยังเป็นการเติมเต็มโอกาสทางการศึกษาในท้องถิ่นที่ห่างไกลให้เท่าเทียมกันอีกด้วย และหากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนเล็งเห็นความสำคัญและร่วมพัฒนาการศึกษาก็จะสามารถยกระดับการศึกษาไทย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต่างๆ ของประเทศได้เป็นอย่างดี