บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรก ประจำปี 2554 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลจากปริมาณขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อ Centennial Coal ในประเทศออสเตรเลีย และราคาขายถ่านหินเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น คาดผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะยังทรงตัวอยู่ในระดับที่ดี

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในครึ่งปีแรก 2554 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 12,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 90 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ประกอบด้วยกำไรจากธุรกิจถ่านหินจำนวน 11,546 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 94 ของกำไรสุทธิ) และธุรกิจไฟฟ้าจำนวน 778 ล้านบาท (หรือร้อยละ 6 ของกำไรสุทธิ) ซึ่งกำไรสุทธิที่ปรับตัวสูงขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการจำหน่ายเงินลงทุนในเหมืองถ่านหินต้าหนิง ประเทศจีน (จำนวน 6,307 ล้านบาท) ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา และกำไรจากธุรกิจถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปริมาณและราคาขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาปริมาณขายถ่านหินมีจำนวน 18 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6.5 ล้านตัน หรือร้อยละ 56.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งมาจากธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 10.62 ล้านตัน และออสเตรเลียมีจำนวน 7.36 ล้านตัน ในขณะที่ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน

“ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยจากแหล่งผลิตในประเทศอินโดนีเซียในครึ่งปีแรกปรับตัวสูงขึ้นเป็น 91.94เหรียญสหรัฐต่อตัน จาก 72.02 เหรียญสหรัฐต่อตันในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลจากราคาถ่านหินในตลาดภูมิภาคที่ปรับตัวสูงขึ้น และจากปริมาณและราคาขายที่เพิ่มขึ้น จึงคาดว่ากำไรสุทธิจากการดำเนินงานในปีนี้จะสูงกว่าปีที่แล้ว” นายชนินท์กล่าว

ในครึ่งปีแรก 2554 ที่ผ่านมา บ้านปูฯ มีรายได้จากการขายรวมจำนวน 49,066 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18,975 ล้านบาท หรือร้อยละ 63 จากครึ่งแรกของปีก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายถ่านหินจำนวน 46,303 ล้านบาท หรือร้อยละ 94 ของรายได้จากการขายรวม ประกอบด้วยรายได้จากการจำหน่ายถ่านหินจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซีย จำนวน 30,223.5 ล้านบาท ออสเตรเลียจำนวน 16,063 ล้านบาท และไทย จำนวน 16.2 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 3 แห่งในประเทศจีน และรายได้อื่นๆ มีจำนวน 2,763 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6 ของยอดขายรวม

“ธุรกิจไฟฟ้าในครึ่งปีแรกมีผลกำไรที่ลดลง โดยส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี มีจำนวน 1,165 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 35 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากราคารับซื้อไฟฟ้าในปีนี้ปรับลดลงตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 81 ล้านบาท ในขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 3 แห่งในประเทศจีนรายงานกำไรสุทธิจำนวน 186 ล้านบาท” นายชนินท์ กล่าวเพิ่มเติม

ส่วนผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซียจะสามารถดำเนินการผลิตถ่านหินได้มากขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ฤดูแล้ง นอกจากนี้คาดว่าราคาขายถ่านหินเฉลี่ยจะปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันอยู่ในระดับที่มากกว่า 95 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยคาดว่ารายได้จากการขายรวมในปีนี้จะมากกว่า 90,000 ล้านบาท

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทพลังงานแห่งเอเชียที่มีความฉับไว ดำเนินธุรกิจถ่านหินและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีฐานธุรกิจใน 4 ประเทศหลัก คือ ไทย อินโดนีเซีย จีน และออสเตรเลีย สำหรับฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2554 มีสินทรัพย์รวม 205,806 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และมีหนี้สินรวม 125,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,099 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 สำหรับอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2554 เท่ากับ 0.73 เท่า เทียบกับ 1.06 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (EPS) เท่ากับ 45.35 บาทต่อหุ้น เทียบกับ 23.82 บาทต่อหุ้นในครึ่งปีแรกของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ บริษัทฯ มีปริมาณสำรองถ่านหินทั้งหมด 902.07 ล้านตัน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2554 เพิ่มขึ้น 310.25 ล้านตันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว