บ้านปูฯ ยกระดับคุณภาพการศึกษาผ่านครูผู้สอน จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ สร้างกระบวนการคิด สู่การพัฒนาโรงเรียนอย่างยั่งยืน
โดยทั่วไปเราคงคิดว่าครูผู้สอนน่าจะมีโอกาสเข้าร่วมการอบรมสัมมนาบ่อยๆ เพื่อเสริมเติมความรู้ เทคนิค หรือแนวทางใหม่ๆ สำหรับนำไปพัฒนาตนเองและปรับวิธีจัดการเรียนการสอนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงจนเป็นเรื่องปกติ ในความเป็นจริงแล้ว ด้วยทั้งภารกิจการสอนที่แน่นขนัดในแต่ละสัปดาห์และหน้าที่อื่นๆ ด้านการบริหารจัดการที่ครูต้องทำด้วย เช่น การบริหารงานวิชาการ การจัดทำบัญชี และการทำรายงานต่างๆ ตามข้อกำหนดทางราชการ เป็นต้น ประกอบกับงบประมาณที่มีจำกัด ทำให้ครูแทบจะไม่มีโอกาสไปเข้ารับการอบรมสัมมนาเพื่อพัฒนาตนเอง หรือแม้บางครั้งจะมีโอกาส ทว่าความรู้ที่ได้มาก็ยากจะนำไปประยุกต์ใช้หรือขยายผลต่อเนื่องในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากประเด็นเหล่านั้นไม่สอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียนหรือไม่ตรงกับบริบทของชุมชนในพื้นที่
ด้วยเล็งเห็นถึงช่องว่างที่สำคัญนี้ ล่าสุด บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินการ “โครงการสนับสนุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” (Banpu Education for Sustainability หรือ BES) ที่ริเริ่มมาตั้งแต่ 15 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาการศึกษา สนับสนุนการเรียนรู้เชิงบูรณาการผ่านการพัฒนาโรงเรียน ศักยภาพครูผู้สอน และส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนให้แก่โรงเรียน 6 แห่งใน 3 จังหวัดภาคเหนือ จึงจัดการอบรมครูผู้สอนด้วยรูปแบบใหม่ใน การอบรมเชิงปฏิบัติการ “สร้างกระบวนการคิด สู่การพัฒนาโรงเรียนอย่างยั่งยืน” โดยมีครูตัวแทนจากทั้ง 6 โรงเรียนเข้าร่วมจำนวน 35 คน การอบรมครั้งนี้มุ่งปลุกวิธีคิดและมอบแนวทางปฏิบัติให้แก่เหล่าบรรดาครู ที่จะกลับไปเป็นผู้ขับเคลื่อนการระดมความคิดเห็นร่วมกันของผู้มีส่วนได้เสียของโรงเรียน ได้แก่ ครู นักเรียน ผู้ปกครองและคนในชุมชน จนได้ผลลัพธ์เป็นแผนพัฒนาโรงเรียนที่เหมาะสมกับนโยบายของโรงเรียนนั้นๆ และมาจากความเห็นพ้องต้องกันของทุกฝ่าย
นางอุดมลักษณ์ โอฬาร ผู้อำนวยการสายอาวุโส-องค์กรสัมพันธ์ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บ้านปูฯ เชื่อเสมอว่า “การเรียนรู้” เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนา “คน” ตลอดระยะเวลา 15 ปี ในการดำเนินโครงการสนับสนุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน บ้านปูฯ เน้นส่งเสริมการเรียนรู้ในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมความตั้งใจที่จะพัฒนาโรงเรียนทั้ง 6 แห่ง ให้มีมาตรฐานทัดเทียมโรงเรียนในเมืองใหญ่ผ่านกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ ที่มิใช่เพียงการสนับสนุนด้านทุนทรัพย์และครุภัณฑ์ สำหรับการอบรมเชิงปฏิบัติการ “สร้างกระบวนการคิด สู่การพัฒนาโรงเรียนอย่างยั่งยืน” นี้ บ้านปูฯ มุ่งหวังที่จะฝึกอบรมครูให้เป็นผู้ขับเคลื่อนกระบวนการวางแผนพัฒนาโรงเรียนที่มาจากการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียแบบ Design Thinking คือ กระบวนการจัดทำแผนที่สะท้อนมาจากความเข้าใจในปัญหาและเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง โดยระดมความคิดสร้างสรรค์และมุมมองจากทุกฝ่ายที่มีบทบาท เป็นการปูทางให้ครูผู้สอนเป็นฟันเฟืองสำคัญในการวางแผนพัฒนาโรงเรียนตามความต้องการหรือเป้าหมายร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างแท้จริง”
วัตถุประสงค์หลักของการอบรมเชิงปฏิบัติการ “สร้างกระบวนการคิด สู่การพัฒนาโรงเรียนอย่างยั่งยืน” คือการอบรมครูผู้สอนให้สามารถนำกระบวนการเรียนรู้ไปถ่ายทอดและจัดประชุมปฏิบัติการร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียของโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นคณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง ตลอดจนชุมชน ผ่านการใช้เทคนิคใหม่ๆ ได้แก่ กระบวนการค้นหาภาพแห่งความสำเร็จ และการจัดทำแผนกระบวนการระบุเป้าหมายที่โรงเรียนต้องการ ภายหลังการอบรมรูปแบบใหม่ครั้งนี้ ครูผู้เข้าอบรมจะนำความรู้ที่ได้รับไปขยายผลและสร้างแผนพัฒนาที่ตรงตามความต้องการของแต่ละโรงเรียนและผู้มีส่วนได้เสีย โดยมีบ้านปูฯ เป็นเสมือนพันธมิตรในการจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็นต่อไปตามความเหมาะสม สิ่งเหล่านี้คือข้อพิสูจน์ว่าการอบรมครั้งนี้แตกต่างไปจากสาระเดิมๆ ในการอบรมที่ครูมีหน้าที่รับฟัง จดจำ และแยกย้ายกลับโรงเรียนโดยไม่มีกระบวนการพัฒนาที่ต่อเนื่อง
นอกจากนั้นแล้ว การอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงการศึกษาหลายท่าน ประกอบไปด้วยนายนคร ตังคะพิภพ อดีตผู้อำนวยการเชี่ยวชาญพิเศษ โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จังหวัดเพชรบุรี และที่ปรึกษาสำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย สพฐ. นายสุรัตน์ เจียตระกูล อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนพะเยาพิทยาคม จ.พะเยา ดร.สาโรจน์ แก้วอรุณ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จ.ลำปาง และนายภักดี รัชตวิภาสนันท์ ครูแห่งชาติปี 2542 อดีตครูเชี่ยวชาญโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ซึ่งต่างก็มีความทุ่มเทและตั้งใจจริงในการส่งมอบความรู้ให้ครูผู้เข้าอบรมทุกคนสามารถนำไปต่อยอดได้อย่างเห็นผล โดยนายนครกล่าวว่า “สัมพันธภาพระหว่างบ้านปูฯ และโรงเรียนในอุปถัมภ์ที่ยาวนานถึง 15 ปี เป็นความได้เปรียบของโรงเรียนในการพัฒนา ต่อยอด และสร้างความยั่งยืน การเสริมวิสัยทัศน์ในอนาคตที่สัมพันธ์กับการจัดการศึกษาของโรงเรียนและการหยิบยกค่านิยมของบ้านปูฯ เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลง ได้แก่ Innovative, Passionate และ Committed มาแบ่งปันแก่ครูจากทั้ง 6 โรงเรียน ถือเป็นการเชื่อมโยงให้ครูหวนคิดถึงค่านิยมของโรงเรียนและเตรียมตัวพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง”
นายนครกล่าวเสริมอีกว่า “การอบรมครั้งนี้จึงเป็นเสมือนพันธสัญญาที่คณาจารย์จะต้องนำความรู้ที่ได้รับไปสร้างการมีส่วนร่วมและจัดทำแผนพัฒนาโรงเรียนพร้อมทั้งกำหนดวิธีและแนวทางด้วยตนเองต่อไป เพื่อช่วยกันค้นหาภาพความสำเร็จของแต่ละโรงเรียน แล้วช่วยกันทำให้ภาพความสำเร็จนั้นไปสู่การปฏิบัติอย่างเต็มศักยภาพ ทำให้โรงเรียนมีทิศทางการพัฒนาที่เหมาะสม ผู้สอนมีความเป็นมืออาชีพและทันยุค ผู้เรียนมีทักษะแห่งอนาคต ผู้ปกครองและชุมชนมีความสุขและความภาคภูมิใจ”
“ท้ายสุดแล้ว บ้านปูฯ เชื่อว่า ด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่นของวิทยากรและครูผู้เข้าอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ ผนวกกับนวัตกรรมและวิธีการใหม่ๆ ที่ถูกนำมาใช้ รวมถึงการสนับสนุนด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่องของบ้านปูฯ จะหล่อหลอมรวมกันเพื่อช่วยผลักดันให้การอบรมนี้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญให้โรงเรียนภายใต้การสนับสนุนของบ้านปูฯ มีภาพโรงเรียนในฝันที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียของโรงเรียนทุกกลุ่ม และสามารถสร้างแผนพัฒนาโรงเรียนที่มุ่งสู่ความยั่งยืน” นางอุดมลักษณ์ กล่าวสรุป
นายนคร ตังคะพิภพ (ยืน ซ้าย) และนายสุรัตน์ เจียตระกูล (ยืน ขวา) สองวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมกันดำเนินกิจกรรมและให้คำแนะนำแก่ตัวแทนครู
ดร.สาโรจน์ แก้วอรุณ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย (ขวา) ทำหน้าที่กระบวนกร (facilitator) พร้อมให้ความรู้และแนะแนวทางอย่างใกล้ชิด
###
เกี่ยวกับ บมจ.บ้านปูฯ
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บุกเบิกด้านพลังงานชั้นแนวหน้าของเอเชีย ดำเนินธุรกิจถ่านหิน ธุรกิจไฟฟ้า และพลังงานที่เกี่ยวเนื่องอย่างครบวงจร ใน 9 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย ลาว มองโกเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
“พลังความรู้ คือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา”
บ้านปูฯ เชื่อว่า “การเรียนรู้” เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนา “คน” ซึ่งจะขับเคลื่อนชุมชนและสังคมให้พัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว โครงการซีเอสอาร์ของบ้านปูฯ ในทุกประเทศ จึงมุ่งเน้นสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องให้กับเยาวชนและชุมชนในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง การดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน การฝึกฝนเพื่อพัฒนาศักยภาพและทักษะชีวิต หรือการค้นคว้า เรียนรู้ และค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเองหรือร่วมกับคนอื่นๆ