บ้านปูฯ รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2552 กำไรเพิ่มขึ้นจากธุรกิจถ่านหิน
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2552 (1 เมษายน 2552 – 30 มิถุนายน 2552) มีกำไรสุทธิจำนวนทั้งสิ้น 3,982 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,683 ล้านบาท หรือร้อยละ 73 เป็นผลจากปริมาณและราคาขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจากธุรกิจถ่านหินในสาธารณรัฐประชาชนจีน
“กำไรสุทธิในไตรมาส 2/ 2552 ที่ปรับตัวสูงขึ้น มาจากปริมาณและราคาขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจากเหมืองถ่านหินในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประกอบกับธุรกิจถ่านหินในสาธารณรัฐประชาชนจีนมีผลการดำเนินงานที่ดี โดยมีส่วนแบ่งกำไรจากเหมืองเฮ่อปี้ และกลุ่มบริษัท เอเชียน อเมริกัน โคลด์ อิงค์ (AACI) จำนวน 1,762 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 55 จากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ซี่งเป็นผลจากปริมาณการผลิตที่สูงขึ้นและราคาขายถ่านหินในประเทศจีนที่ยังอยู่ในระดับดี อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ได้ปรับลดลงร้อยละ 17 จากไตรมาส 1/2552 ตามการลดลงของราคาขายถ่านหิน และการรับรู้กำไรจากอนุพันธ์ทางการเงินที่ลดลง” นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบ้านปูฯ กล่าว
ทั้งนี้ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของบริษัทฯ ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 73.89 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลงจาก 84.23 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือร้อยละ 12 จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากการทำสัญญาขายถ่านหินล่วงหน้าของไตรมาสนี้ได้ดำเนินการในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 ซึ่งอยู่ในภาวะที่ราคาตลาดอ่อนตัวลง ส่วนปริมาณขายถ่านหินมีจำนวน 4.51 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากไตรมาส 1 ของปีนี้ เนื่องจากการผลิตและขนถ่ายถ่านหินในอินโดนีเซียดำเนินการได้ดีขึ้นจากไตรมาส 1 นอกจากนี้เหมืองอินโดมินโคได้เริ่มผลิตถ่านหินในส่วนพื้นที่ใหม่ทางด้านทิศตะวันออก (East Block) ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ปริมาณการผลิตถ่านหินในครึ่งหลังของปีนี้ปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานธุรกิจไฟฟ้าในไตรมาส 2/2552 นายชนินท์ กล่าวว่า โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีมีการจำหน่ายไฟฟ้าในระดับที่ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า โดยบริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีจำนวน 1,249 ล้านบาท (รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 268 ล้านบาท) ส่วนบริษัท Banpu Power Investment (China) Ltd. หรือ BPIC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าในประเทศจีน ได้บันทึกกำไรสุทธิจำนวน 101 ล้านบาทลดลงร้อยละ 55 จากไตรมาส 1/2552 เนื่องจาก ความต้องการใช้ไอน้ำที่ลดลงหลังจากพ้นฤดูหนาว
ในไตรมาส 2 ของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมจำนวน 12,932 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 1,865 ล้านบาทหรือร้อยละ17 แบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินจำนวน 11,846 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 1,839 ล้านบาท หรือร้อยละ 18 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 92 ของรายได้จากการขายรวม ส่วนรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในประเทศจีน มีจำนวน 1,086 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8 ของรายได้ทั้งหมด
บ้านปูฯ เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานแห่งเอเชียที่มีความฉับไว ดำเนินธุรกิจหลักทางด้านถ่านหินและ ไฟฟ้าโดยมีฐานธุรกิจอยู่ใน 3 ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย และจีน โดยฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 เมื่อเปรียบเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 93,167 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,805 ล้านบาท มีหนี้สินรวมจำนวนทั้งสิ้น 40,974 ล้านบาท ลดลง 2,853 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7 สำหรับอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 เท่ากับ 0.25 เท่า เทียบกับ 0.36 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ส่วนกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเท่ากับ 14.65 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 73 เมื่อเทียบกับ 8.46 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา