บ้านปูฯ รายงานผลประกอบการประจำปี 2552 กำไรเพิ่มขึ้นจากธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้า
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2552 มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 14,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,001 ล้านบาท หรือร้อยละ 54 จากปีก่อนหน้า เป็นผลจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นทั้งในส่วนของธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้า
กำไรสุทธิทั้งหมดของปี 2552 แบ่งเป็นกำไรจากธุรกิจถ่านหินจำนวน 10,444 ล้านบาท และจากธุรกิจไฟฟ้าจำนวน 3,785 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 73 และ 27 ของกำไรสุทธิทั้งหมดตามลำดับโดยในส่วนของธุรกิจถ่านหินได้รับผลดี จากปริมาณการผลิตและขายถ่านหินที่เพิ่ม ขึ้นเป็น 21.09 ล้านตัน หรือร้อยละ14 จาก18.5 ล้านตันในปี 2551 ซึ่งเป็นผลจากแผนการทำเหมืองถ่านหินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในอินโดนีเซียซึ่งมีปริมาณฝนตกน้อยกว่าทุกปี ในขณะที่ธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนมีผลประกอบการที่ดีเช่นกันเนื่องจากการผลิตที่ราบรื่นท่ามกลางสภาวะราคาขายที่ทรงตัวได้ดีจากความต้องการใช้ถ่านหินภายในประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการบันทึกกำไรจากสัญญาซื้อขายถ่านหินล่วงหน้า (Coal Swap) อีกจำนวน 2,876 ล้านบาท (เทียบกับปีก่อนหน้าที่มีผลขาดทุนจากรายการนี้จำนวน 218 ล้านบาท) จึงส่งผลให้กำไรจากธุรกิจถ่านหินเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในปีที่ผ่านมา สำหรับราคาขายเฉลี่ยถ่านหินของบริษัทฯ ในปี 2552 เท่ากับ 71.7 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งใกล้เคียงกับราคาขายในปีก่อนหน้าที่ 72 เหรียญสหรัฐต่อตัน เนื่องจากบริษัทฯ ได้ตกลงราคาขายกับลูกค้าล่วงหน้า ตั้งแต่ประมาณกลางปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาถ่านหินในตลาดโลกอยู่ในสภาวะที่ดี
สำหรับธุรกิจไฟฟ้านั้น โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ซึ่งบ้านปูฯ ถือหุ้นร้อยละ 50 มีอัตราการจ่ายไฟที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทฯมีส่วนแบ่งกำไรจากบีแอลซีพีจำนวน 3,412 ล้านบาท (รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 296 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จาก ปีก่อนหน้าที่ 3,165 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน ธุรกิจไฟฟ้าในประเทศจีนมีผลประกอบการดีขึ้นเนื่องจากต้นทุนราคาถ่านหินที่ลดลง ประกอบกับรัฐบาลจีนได้ปรับขึ้นราคาขายไฟฟ้าและไอน้ำ จึงทำให้โรงไฟฟ้าพลังร่วมความร้อนทั้ง 3 แห่งในประเทศจีน มีกำไรสุทธิจำนวน 591 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 431 ล้านบาท จาก160 ล้านบาทในปีที่แล้ว
ในปี 2552 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมจำนวน 57,865 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,336 ล้านบาท หรือร้อยละ 15 จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายถ่านหินจำนวน 52,704 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 91 ของรายได้จากการขายรวม ซึ่งมาจากการขายถ่านหินจากเหมืองถ่านหินในสาธารณรัฐอินโดนีเซียจำนวน 52,603 ล้านบาท และ จากเหมืองถ่านหินในประเทศไทย 101 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในสาธารณรัฐประชาชนจีนและรายได้อื่นๆ มีจำนวน 5,162 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9 ของรายได้จากการขายรวม
ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 101,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,830 บาท หรือร้อยละ 13 มีหนี้สินรวมจำนวน 45,465 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,412 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 เท่ากับ 0.16 เท่า เทียบกับ 0.36 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ส่วนกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน เท่ากับ 52.36 บาทต่อหุ้น ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 54 เทียบกับ 33.96 บาทต่อหุ้นในปี 2551