By clicking “Accept All Cookies”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts.
Cookies Settings
บ้านปูฯ รายงานผลประกอบการประจำปี 2551 กำไรเพิ่มขึ้นจากธุรกิจถ่านหินที่ได้รับปัจจัยบวกจากราคาขายที่สูงขึ้น

บ้านปูฯ รายงานผลประกอบการประจำปี 2551 กำไรเพิ่มขึ้นจากธุรกิจถ่านหินที่ได้รับปัจจัยบวกจากราคาขายที่สูงขึ้น

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2551 ว่า มีกำไรสุทธิจำนวนทั้งสิ้น 9,228ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าจำนวน 2,573 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 39 เป็นผลจากธุรกิจถ่านหินที่มีราคาขายถ่านหินเฉลี่ยปรับสูงขึ้นที่ 72 เหรียญสหรัฐต่อตันหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 จากปี 2550

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กำไรสุทธิจำนวน 9,228 ล้านบาท แบ่งเป็นกำไรสุทธิจากธุรกิจถ่านหินจำนวน 6,326 ล้านบาท และ 2,902 ล้านบาทจากธุรกิจไฟฟ้า หรือคิดเป็นร้อยละ 68. 5 และ 31.5 ของกำไรสุทธิทั้งหมดตามลำดับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลประกอบการของธุรกิจถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาขายถ่านหินเฉลี่ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับความสำเร็จจากการซื้อหุ้นของบริษัท อเมริกัน โคล อิงค์ (Asian American Coal Inc. – AACI) เมื่อกลางปีที่แล้วมีส่วนช่วยเสริมให้กำไรจากธุรกิจถ่านหินจากสาธารณรัฐประชาชนจีนสูงขึ้นด้วย

“ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยที่สูงขึ้น (จาก 41.06 เหรียญสหรัฐต่อตันในปี 2550 เป็น 72 เหรียญสหรัฐต่อตันในปี 2551) มีส่วนสำคัญในการผลักดันอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจถ่านหินปรับตัวสูงขึ้นเป็นร้อยละ 48 จากร้อยละ 37 ในปีก่อนหน้า ท่ามกลางสภาวะต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งในส่วนของราคาน้ำมันดีเซลและต้นทุนในการทำเหมือง ในขณะที่ธุรกิจถ่านหินในประเทศจีน เหมืองถ่านหินต้าหนิงและเฮ่อปี้สร้างกำไรเป็นจำนวนเงิน 1,781 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 4 เท่าจากปีก่อนหน้า ทั้งนี้เป็นผลมาจากทั้งราคาขายถ่านหินในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น และการรวมงบการเงินของ AACI ตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2551” นายชนินท์กล่าว

ในปี 2551 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมจำนวน 50,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18,088 ล้านบาท หรือร้อยละ 56 แบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายถ่านหินจำนวน 45,976 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 91 ของรายได้จากการขายรวม ซึ่งมาจากการขายถ่านหินจากเหมืองถ่านหินในสาธารณรัฐอินโดนีเซียจำนวน 45,599 ล้านบาท และ จากเหมืองถ่านหินในประเทศไทย 377 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีจำนวน 4,460 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9 ของรายได้จากการขายรวม

“ในปี 2551 ที่ผ่านมาธุรกิจไฟฟ้ามีส่วนเสริมรายได้ให้แก่บริษัทฯ น้อยลงกว่าปีก่อนโดยมีการบันทึกกำไรจากโรงไฟฟ้า BLCP จำนวน 3,165 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 22 จาก 4,076 ล้านบาทในปีก่อนหน้า เป็นผลจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 202 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน ธุรกิจไฟฟ้าในประเทศจีนก็ประสบปัญหาจากราคาขายไฟฟ้าที่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลในขณะที่ต้นทุนราคาถ่านหินปรับตัวสูงขึ้นตามสภาวะตลาด จึงทำให้กำไรสุทธิจากโรงไฟฟ้าในประเทศจีนลดลงเหลือ 160 ล้านบาท” นายชนินท์กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับปริมาณการจำหน่ายถ่านหิน ในปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 18.5 ล้านตัน ลดลง 0.8 ล้านตัน หรือร้อยละ 4 จากปีก่อนหน้า เป็นผลจากปริมาณสำรองถ่านหินของเหมืองในประเทศไทยปรับลดลง และการผลิตของเหมืองถ่านหินในสาธารณรัฐอินโดนีเซียประสบกับปัญหาภาวะฝนตกหนักมากที่สุดอีกปีหนึ่ง

ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 89,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24,311 บาท หรือร้อยละ 37 มีหนี้สินรวมจำนวน 43,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17,274 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 65อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 เท่ากับ 0.36 เท่า เทียบกับ 0.14 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ส่วนกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน เท่ากับ 33.96 บาทต่อหุ้น ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 39 เมื่อเทียบกับ 24.49 บาทต่อหุ้นในปี 2550

© 2024 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) | Banpu Public Company Limited. All rights reserved.