บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) คาดการณ์รายได้ในปี 2555 จะเติบโตที่ประมาณร้อยละ 15 หรือประมาณ 1.3 แสนล้านบาท จากปริมาณและราคาขายถ่านหินที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการผลิตถ่านหินในปีนี้ที่ประมาณ 47.7 ล้านตัน

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บ้านปู กล่าวในงานแถลงข่าวผลประกอบการประจำปี 2554 ว่า ในปีที่ผ่านมา บ้านปูฯ มีรายได้จากการขายรวมจำนวน 112,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 72 จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายถ่านหินจำนวน 107,168 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 79 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 95 ของรายได้จากการขายรวม ในขณะที่รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ที่ 5,236 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5 ของรายได้ โดยในปี 2555 นี้ คาดว่ารายได้จากการขายรวมจะเติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ประมาณร้อยละ 15 หรือประมาณ 1.3 แสนล้านบาท ตามปริมาณการผลิตและจำหน่ายถ่านหินจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซียและออสเตรเลียที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของปีนี้คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันตามราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ยังคงอยู่ในระดับที่ดีเพราะความต้องการใช้ถ่านหินในเอเชียยังแข็งแกร่ง

“ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการผลิตถ่านหินรวมที่ประมาณ 47.7 ล้านตันโดยจะมาจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซียประมาณ 27 ล้านตัน ออสเตรเลียประมาณ 16.7 ล้านตัน และจีนอีกประมาณ 3 ล้านตันและมองโกเลีย 1 ล้านตัน ส่วนราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของปีนี้คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของเหมืองในอินโดนีเซียซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจที่มีความสำคัญต่อผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯ ซึ่งคาดว่าน่าจะสูงกว่า 97.06 เหรียญสหรัฐต่อตันในปี 2554 ที่ผ่านมา” นายชนินท์กล่าว

นายชนินท์กล่าวอีกว่า ในปีนี้บ้านปูฯ ได้ทำสัญญากำหนดราคาขายถ่านหินในอินโดนีเซียไปแล้วร้อยละ 51 ของเป้าหมายการขายที่ 27 ล้านตัน หรือประมาณ 14 ล้านตันในระดับราคาที่ใกล้เคียงกับราคาถ่านหินในตลาด

ส่วนกำไรสุทธิในปีที่ผ่านมามีจำนวน 20,060 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,820 ล้านบาท หรือร้อยละ 19 เนื่องจากกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนลดลงจากปี 2553 ที่มีการบันทึกกำไรจากรายการพิเศษ 2 รายการจำนวนถึง 15,176 ล้านบาท อย่างไรก็ตามกำไรจากการดำเนินงาน (Operating profit) ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 42 จากปีก่อนหน้า
“หากไม่นับรวมกำไรจากรายการพิเศษ กำไรสุทธิจากการดำเนินงานในปี 2554 มีจำนวน 13,753 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 42 จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นกำไรจากธุรกิจไฟฟ้า จำนวน 1,063 ล้านบาท เป็นสัดส่วนร้อยละ 8 ของกำไรจากการดำเนินงาน ส่วนที่เหลืออีก 12,690 ล้านบาท มาจากกำไรจากธุรกิจถ่านหิน และเป็นสัดส่วนร้อยละ 92 ของกำไรจากการดำเนินงาน ทั้งนี้เป็นผลจากปริมาณและราคาขายถ่านหินเฉลี่ยจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้มีการรวมงบการเงินของธุรกิจถ่านหินในประเทศออสเตรเลียเต็มปีเป็นปีแรก” นายชนินท์กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2555 นี้ บริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนประมาณ 600 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้ในการพัฒนากำลังการผลิตและปริมาณสำรองถ่านหินจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีปริมาณสำรองถ่านหินจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และจีน ในขณะนี้ รวมจำนวน 695 ล้านตัน จาก 672 ล้านตันในปีก่อนหน้า

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทพลังงานแห่งเอเชียที่มีความฉับไว ดำเนินธุรกิจถ่านหินและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีฐานธุรกิจใน 5 ประเทศหลัก คือ ไทย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย และมองโกเลีย สำหรับฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 มีสินทรัพย์รวม 225,010 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากปีก่อนหน้า และมีหนี้สินรวม 136,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีก่อนหน้า อัตราหนี้สินสุทธิต่อทุน 0.74 เท่า เทียบกับ 1.07 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2554 73.82 บาทต่อหุ้น เทียบกับ 91.56 บาทต่อหุ้นในปี 2553 ปรับตัวลดลงร้อยละ 19