By clicking “Accept All Cookies”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts.
Cookies Settings
บ้านปูฯ แถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2550 กำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 60

บ้านปูฯ แถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2550 กำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 60

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) แถลงผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ประจำปีงบประมาณ 2550 (1 มกราคม 2550 – 31 มีนาคม 2550) มีกำไรสุทธิจำนวนทั้งสิ้น 1,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 448 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 60 เป็นผลจากการรับรู้กำไรของโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีที่ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ทั้งสองหน่วยในปีนี้

นาย ชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กำไรสุทธิของบริษัทฯ จำนวน 1,194 ล้านบาท ในไตรมาส 1 นั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2549 และปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้เป็นผลจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีเต็มกำลังผลิตครบทั้งสองหน่วย ทำให้บริษัทฯ รับรู้ผลกำไรจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี จำนวน 1,291 ล้านบาทในไตรมาส 1 ของปีนี้

“อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสนี้ ได้แก่ ปริมาณขายถ่านหินที่ลดลงจากปัญหาการหยุดขนถ่ายถ่านหินที่ท่าเรือบอนตังในสาธารณรัฐอินโดนีเซียเป็นการชั่วคราว โดยได้มีการเลื่อนกำหนดการส่งมอบถ่านหินออกไปประมาณ 4 แสนตัน นอกจากนี้ ปริมาณการขายถ่านหินคุณภาพดีที่ลดลงส่งผลให้ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยปรับตัวลดลงจาก 37.05 เหรียญสหรัฐต่อตันในไตรมาส 4/2549 เป็น 36.17 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับเดิมคือร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีค่าใช้จ่ายในการขายและค่าบริหารที่เพิ่มขึ้นจากการใช้เรือลำเลียงถ่านหินและการใช้ท่าเรืออื่นสำหรับการขนถ่ายถ่านหิน รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายจากการหยุดซ่อมแซมท่าเรือบอนตังอีกด้วย (Demurrage)” นายชนินท์กล่าวชี้แจง

ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บ้านปูฯ มีรายได้จากการขายรวมจำนวน 6,700 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 882 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12 เนื่องจากปริมาณการขายถ่านหินที่ลดลง และการที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ โดยแบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายถ่านหินจำนวน 5,750 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 86 ของรายได้จากการขายรวม ซึ่งมาจากรายได้จากการขายถ่านหินจากแหล่งผลิตในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย 5,561 ล้านบาท และจากแหล่งถ่านหินในไทย 189 ล้านบาท สำหรับรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำมีจำนวน 917 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14 ของรายได้จากการขายรวม ส่วนรายได้อื่น ๆ มีจำนวน 33 ล้านบาท

สำหรับปริมาณการขายถ่านหินในไตรมาส 1 ที่ผ่านมามีจำนวน 4.32 ล้านตัน ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 2549 ร้อยละ 15 เป็นผลจากการหยุดซ่อมแซมท่าเรือบอนตัง ส่วนราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของบริษัทฯ ประจำไตรมาส 1 เท่ากับ 36.17 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2 เป็นผลจากการขายถ่านหินคุณภาพสูงในสัดส่วนที่สูงขึ้น

บ้านปูฯ เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานชั้นนำของเอเชียที่มีฐานการผลิตใน 3 ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย และ จีน โดยฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 49,396 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 ล้านบาท และมีหนี้สินรวมจำนวน 26,714 ล้านบาท ลดลง 328 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 เท่ากับ 0.73 เท่า เทียบกับ 0.66 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 ส่วนกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (EPS) ประจำไตรมาสนี้เท่ากับ 4.39 บาทต่อหุ้น เทียบกับ 2.74 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 1/2549

© 2024 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) | Banpu Public Company Limited. All rights reserved.