บริษัทฯ ถือเป็นนโยบายสำคัญที่จะไม่ให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานใช้โอกาสจากการเป็นกรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน จึงกำหนดไว้ในคู่มือจริยธรรมธุรกิจถึงข้อปฏิบัติสำหรับกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ให้หลีกเลี่ยงการทำรายการที่เกี่ยวโยงกับตนเองที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับบริษัทฯ และในกรณีที่จำเป็นต้องทำรายการดังกล่าว ต้องกระทำโดยมีราคาและเงื่อนไขเสมือนการทำรายการกับบุคคลภายนอก (Fair and at arm’s length) และกรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานที่มีส่วนได้เสียในรายการนั้นจะต้องไม่มีส่วนในการพิจารณาอนุมัติ หากรายการใดเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันภายใต้ประกาศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และการเปิดเผยข้อมูลรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียนอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังกำหนดข้อห้ามไม่ให้ใช้โอกาสหรือข้อมูลที่ได้จากการเป็นกรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานในการหาประโยชน์ส่วนตน หรือทำธุรกิจที่แข่งขันกับบริษัทฯ หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งไม่ใช้ข้อมูลภายในเพื่อประโยชน์ของตนในการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ หรือให้ข้อมูลภายในแก่บุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ในการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในกรณีที่ผู้บริหารหรือพนักงานมีส่วนร่วมในการทำงานเฉพาะกิจที่มีข้อมูลที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ และอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งงานนั้น ๆ เข้าข่ายการเก็บรักษาข้อมูลภายในอันอาจมีผลต่อความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นของบริษัทฯ ผู้บริหารและพนักงานเหล่านั้นจะต้องทำสัญญาเก็บรักษาข้อมูลภายใน (Confidentiality Agreement) ไว้กับบริษัทฯ จนกว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
บริษัทฯ ได้ประกาศใช้นโยบายและแนวปฏิบัติการจัดการข้อมูลลับที่มีผลต่อตลาดหลักทรัพย์ (Market Sensitive Information Policy and Standard Practice Manual) ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ที่ปรึกษา และบริษัทย่อยที่ต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตาม โดยมีรายละเอียดตามหัวข้อที่ปรากฏในนโยบายและแนวปฏิบัติ ดังนี้
- จัดให้มีระบบควบคุมภายในเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลลับ
- ปลูกฝังให้เป็นวัฒนธรรมองค์กรผ่านการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้บุคคลที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงหน้าที่ในการรักษาความลับของบริษัทฯ
- จำกัดจำนวนบุคคลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลลับให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น (Need to Know Basis) โดยมีระบบควบคุมคู่สัญญาและผู้ให้บริการอื่นของบริษัทฯ ที่สามารถเข้าถึงระบบของบริษัทฯ ได้
- ระมัดระวังในกรณีที่ได้รับหรือส่งต่อข้อมูลให้แก่บุคคลที่สาม โดยทุกฝ่ายต้องตระหนักรู้ถึงภาระหน้าที่ของตนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้และการควบคุมข้อมูลลับ
- มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการควบคุมที่เหมาะสม
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้กำหนดให้มีการติดตามการปฏิบัติตามนโยบายบรรษัทภิบาลและคู่มือจริยธรรมธุรกิจ ซึ่งครอบคลุมถึงการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติว่าด้วยการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ การป้องกันการใช้ข้อมูลภายใน การจัดการข้อมูลลับที่มีผลต่อราคาหลักทรัพย์ ตลอดจนแนวปฏิบัติที่สำคัญอื่นๆ โดยหน่วยงานบรรษัทภิบาลร่วมกับฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้จัดทำสื่อการเรียนรู้และเอกสารประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ผ่าน Internal Portal ของบริษัทฯ เพื่อชี้แจงถึงแนวปฏิบัติที่สำคัญไปยังกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน (ร้อยละ 100) ได้ศึกษา ทำความเข้าใจ และเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามนโยบายต่างๆ ที่บริษัทฯ กำหนด พร้อมจัดให้มีกิจกรรมการปฐมนิเทศและการติดตามให้มีการลงนามรับทราบการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติในนโยบายดังกล่าวสำหรับกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานที่เข้าใหม่ทุกคนในรอบปี ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทฯ ไม่มีกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์